The Moon
คนส่วนใหญ่คิดว่าแม่มดคงทั้งแก่ ทั้งเหี่ยว หน้าตาน่าเกลียด น่ากลัว หรือไม่ก็เจ้าเล่ห์แสนกล
ลองมาดูในแง่ที่น่าสงสารบ้างนะคะ
ในสมัยก่อนเรื่องของแม่มดนั้นมักจะเกี่ยวกับชาวคริสเตียนเป็นส่วนใหญ่ สมัยก่อนมีการใส่ร้ายป้ายสีว่าใครเป็นแม่มดล่ะก็ และลงท้ายด้วยการตัดสินของผู้พิพากษาแล้วล่ะก็ย่อมหมายถึงการลงโทษที่แสนทรมาน และสยดสยองอย่างมากค่ะ และในท้ายที่สุดก็จะถูกเผาทั้งเป็น
ประวัติศาสตร์แห่งความลึกลับน่ากลัวของแม่มดนี้เริ่มตั้งแต่ ศตวรรษที่๑๖และสิ้นสุดใน ศตวรรษที่๑๘ ลัทธิแม่มดในสมัยก่อนนั้นทำให้ผู้คนดีๆได้ถูกทำลาย หรือถูกประหารโดยไม่ได้รับความยุติธรรมเลยล่ะค่ะ ผู้คนจะรังเกียจลัทธินี้เพราะว่าหากเข้าไปเกี่ยวข้องก็ย่อมแน่นอนว่าจะต้องถูก ทำลายทั้ง ชื่อเสียง เกรียรติยศ และมักจะจบลงด้วยความตายเสมอ
หากผู้อำนาจบางคนอยากได้ที่ดินของชาวบ้านแล้วเค้าไม่ยกให้ ก็ไปแจ้งว่าเค้าเป็นแม่มด ทำให้เจ้าของที่ดินนั้นๆต้องถูกจองจำ และโดนเผาทั้งเป็นและถูกยึดทรัพย์ในที่สุด ซึ่งก็ทำให้ผู้มีอำนาจในสมัยนั้นสามารถเพิ่มทรัพย์สินและที่ดินให้กับตนเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
หรือผู้พิพากษาคนหนึ่งไม่สมหวังในความรักก็แก้แค้นโดยการกล่าวหาหญิงสาวที่หักอกเค้าว่าเป็นแม่มด ทำให้เธอถูกกักขังทำทารุญและลงท้ายก็ถูกเผาทั้งเป็น หรือไม่โบยตี เด็ก แล้วจับเอา พ่อ แม่ลูก ไปเผาพร้อมๆกันบางทีแค่สงสัยว่าเป็นแม่มดหรือเปล่า
การทารุญแม่มดนั้นมีหลายแบบค่ะ แต่ลงท้ายก็คือแขวนคอ เผาทั้งเป็น หรือฝังทั้งเป็น ทั้งๆที่มีนักบวชหลายคนคัดค้านแต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเลย ใครที่มีใฝ ตุ่มบนร่างกาย ปานไม่ว่าจะแดงหรือดำ ก็ต้องโดนตัดสินว่าเป็นแม่มดทันที เพราะว่าเชื่อกันว่าคนที่เป็นแม่มดนั้นจะต้องมีเครื่องหมายปีศาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย
ในสมัยนั้นเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าปีศาจจะแปลงกายเป็นผีร้ายมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยให้แม่มดทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ของโปรดที่กล่าวกันว่าแม่มดชอบคือเลือดจากตุ่มหรือปุ่มที่ยื่นออกมาจากร่างกาย ในช่วงปี ค.ศ.๑๖๘๑ ได้มีโรคพุพองระบาด มีคนพิการเกิดขึ้นมากขึ้น
นักศิลปศาสตร์คนหนึ่งจากแคมบริดจ์ บอกว่าเกิดจากปีศาจร้ายได้เดินไปมาและได้อาเจียรเอาพิษร้ายต่างๆฟุ้งมาถูกคนทำให้เกิดการพุพองขึ้น และปีศาจจะดูดเลือดทั้งคนและสัตว์ จากตุ่มแผลนั้นเพื่อเพิ่มพลัง
เรื่องราวของแม่มดในอังกฤษจะต่างออกไปจากฝรั่งเศสและเยอรมัน โดยทั่วไปจะบอกว่าแม่มดจะร่วมมือกับปีศาจทำพิธีสาปแช่งด้วยวิธีการต่างๆที่ดหดร้ายและจะซื่อสัตย์ต่อปีศาจ แม่มดไม่สามารถฆ่าคนได้เว้นเสียแต่ใช้ยาพิษ คือแต่ที่แปลกคือกล่าวกันว่าแม่มดในฝรั่งเศสจะไม่ถูกกันกับแม่มดในอังกฤษด้วยค่ะ
แต่ก็มีแม่มดอีกประเภท คือแม่มดขาว พวกนี้จะทำดีต่อเพื่อนบ้าน ไม่ทำร้ายคน แต่ว่าก็ไม่นับถือพระเจ้า และดันไปรับนับถือกฏต่างๆที่จะช่วยศัตรูของพระเจ้าอีกต่างหากค่ะ
ลัทธิเวทย์มนต์คาถาของแม่มดนั้นจะแตกต่างจากลัทธิและศาสนาอื่นแม่ไม่ผิดกฏหมายแต่ก็ถูกต่อต้านจากคนทั่วไปจึงได้มีการประหารกันอย่างมากมายค่ะ
โดยทั่วไปแล้วหากใครที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากคำสอนของทางศาสนาโรมันคาทอลิกแล้ว
ล่ะก็ทางฝ่ายศาสนาจะตั้งศาลพิเศษมาไต่สวนโดยวิธีการนั้นทรมานมากเพื่อให้คนเหล่านั้นสารภาพว่าตนเองเป็นแม่มด ซึ่งก็ได้ผลหลายรายมากเนื่องจากทนความทรมานไม่ไหวค่ะ
ชายคนหนึ่งถูกเผาตายทั้งเป็นทั้งๆที่ไม่มีความผิด เขาได้สามบานกับพระคัมภีร์ว่านับถือพระเจ้ามาตลอด เขาปฏิเสธทุกอย่างที่ถูกกล่าวหามา แม้จะถูกทรมานเขาตะโกนถึงแต่พระเจ้าตลอดเวลา เขาบอกพระเจ้าว่าเขากำลังจะตาย เขาไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย เขาถูกทารุญรุนแรงขึ้น ถูกทิ่มแทงตามตัวละแขนขา เขาตะโกนบอกให้พระเจ้าสงสารเขาเถิดเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกับปีศาจเลย พระเจ้าได้โปรดกรุณาเขาเถิด เขานับถือแต่เทวดาแห่งความดี แต่สุดท้ายเขาก็ถูกเผาตาย
การพิพากษาตัดสินแม่มดนั้นทำทั่วยุโรบ ยกเว้นฮอลแลนด์ ทำการพิพากษาในนามของคริสเตียน โดยมีนักฏหมาย ผู้พิพากษา ศาสตราจารย์ในแขนงต่างๆช่วยกันส่งเสริมในเรื่องของเหตุผล แต่มีผู้พิพากษาคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ดังนั้นเขาก็ต้องพาครอบครัวหนีจากเยอรมันไปอยู่ฮอลแลนด์
สภา ลิมพาณิชย์การ คอลัม ลมเพลมพัด
ภาพหัวเรื่องจากhttp://anoteoffriendship.blogspot.com
ภาพในเรื่องจากhttp://gosai.com