Egg ไข่
ความเชื่อฝรั่ง เรื่องใข่
มีคำถามเก่าแก่ (ที่เราเรียกว่าคำถามโลกแตก) ก็คือ “ไก่หรือไข่ ใครเกิดก่อนกัน ?” คำถามที่ไม่มีวันจบนี้ บอกถึงที่มาของไข่ที่แฝงอยู่ในเทพนิยายมหัศจรรย์และนิทานหลายเรื่อง ไข่จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งกำเนิดชีวิตที่มีอยู่ในหลายๆความเชื่อทั่วโลกและสิ่งหนึ่งที่ดูจะเห็นพ้องต้องกันคือ ไข่เป็นตัวแทนหรือเครื่องหมายแห่ง “ความโชคดี” ในทุกๆความเชื่อและทุกๆวัฒนธรรม
การระบายสีบนเปลือกไข่ในพีฉลองเทศกาลอีสเตอร์ (Easter) คือ ประเพณีเก่าแก่ที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับไข่ในวัฒนธรรมตะวันตก ที่จัดขึ้นในปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน อาจเป็นเพราะไข่สงบนิ่งด้วยการหลับใหล และเปลือกปริแตกออกเพื่อนำไปสู่ชีวิตใหม่ของพระเยซู หรือฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งของพระองค์
ธรรมเนียมไข่อีสเตอร์มีที่มาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับ มารี แมกดาลีน ที่เธอได้นำตะกร้าใส่ไข่ไปให้แก่ทหารโรมันที่เฝ้าไม้กางเขนที่ตรึงตราร่างพระเยซูเอาไว้ มารีร้องไห้คร่ำครวญอย่างทุกข์เทนาเพื่อให้เหล่าทหารเหล่านั้นลดการกระทำอันเหี้ยมโหดต่อพระองค์ จนกระทั่งน้ำตาของเธอได้หยดลงบนไข่ในตะกร้า ปาฏิหาริย์ได้บังเกิดขึ้น ทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีสันสวยงาม ในประเทศยุโรปบางแห่งอาจไม่นิยมระบายสีไข่อีสเตอร์ แต่จะระบายด้วยสีแดงสีเดียว เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระโลหิตแห่งพระคริสต์ แต่ดูแล้วพวกเด็กๆคงชอบไข่อีสเตอร์หลายๆสีมากกว่า การออกค้นหาไข่อีสเตอร์ที่ถูกซ่อไว้ แล้วนำมาระบายสีแต่งเติมลวดลายกันอย่างสนุกสนาน น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆจนหลงลืมความหมายความสำคัญของคำว่าอีสเตอร์ไปแล้ว
ในศาสนายูดาย (ศาสนาเก่าแก่ของชาวยิว) ไข่ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมสำคัญของชาวยิว คือ “เทศกาลแพส-โอเวอร์” (Passover) หรือที่รู้จักกันในแถบยุโรปว่า “เทศกาลปัสก้า” (บ้างเรียกว่า “เปซัค”) ในวันนั้นชาวยิวจะนำไข้มาต้มขนแข็ง แล้วจุ่มลงในน้ำเกลือแล้วนำมาต้มอีกครั้ง เพื่อให้ไข่แดงข้างในแข็งตัว ว่ากันว่า การกระทำแบบนี้เป็นการเตือนให้รำลึกถึงไข่ที่เป็นตัวแทนของการกำเนิดชีวิตใหม่จากน้ำตาที่หลั่งไหลของทาสชาวฮีบรูในอียิปต์
ในเทศกาลศีลอดทั้งสองช่วงชองชาวยิว ที่เรียกกันว่า “โยม คิปปูร์ (Yom Kippur)” กับ “ทีซา บี อีฟ (Tisha B’ Av)” เป็นการอดอาหารและสวดมนต์ ภาวนาเพื่อไถ่บาปที่ได้กระทำมาแล้วรับรู้ถึงความทุกข์ยากของชีวิต หลังจากสิ้นสุดเทศกาล ชาวยิวก็จะรับประทานไข่เพื่อรำลึกเตือนสติตนเองอีกครั้ง และในพิธีกรรมงานศพของชาวยิวก็ยังเกี่ยวข้องกับไข่ที่ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์แทนการไว้ทุกข์ และยังสามารถแสดงออกในความหมายถึงวัฏจักรที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงของมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ในประเทศจีน หากบ้านใดมีทารกเกิดขึ้นใหม่ พ่อแม่ก็จะป่าวประกาศเพื่อแสดงความยินดีต่อเพื่อนบ้าน พวกเขานิยมต้มไข่แดงเพื่อนำมาเลี้ยงฉลอง การที่ไข่ถูกย้อมจนเป็นสีแดง ก็เพราะสีแดงบนตัวไข่ เป็นความหมายถึงชีวิตใหม่กำเนิดขึ้นมา
ในทางตรงกันข้ามยังมีความเชื่อแปลกๆเกี่ยวกับไข่ เช่น ชาวญี่ปุ่นที่เชื่อถือในโชคลางจะเชื่อว่า ถ้าผู้หญิงก้าวเท้าข้ามเปลือกไข่เป็นสิ่งไม่ดี และผู้หญิงคนนั้นจะกลายเป็นคนบ้า ในขณะที่หลายๆประเทศกลับมีความเชื่อแปลกๆเกี่ยวกับไข่ว่า ถ้าคุณต้องการรู้ว่าใครคือคู่รักคู่ชีวิตของคุณ ให้ลองต้มไข่จนสุกแล้วกะเทาะเอาไข่แดงออก จากนั้นให้เติมช่องว่างตรงกลางไข่ด้วยเกลือแล้วทานไข่ใบนั้นในมื้อค่ำ เชื่อกันว่า ในคืนนั้นคุณจะฝันเห็นคนรักในอนาคต
คัดมาจากหนังสือ มหัศจรรย์เครื่องราง