เทพีดีมิเตอร์( ไพ่Empress)

 

 

ไพ่ใบนี้นั้นกล่าวถึงเทพดีมิเตอร์ ซึ่งเป็นเทวีแห่งธัญญาหาร ซึ่งศักดิ์ก็จะนับได้ว่าเป็นแม่ยายของเทพฮาเดสค่ะ  แต่จากตำนานที่เล่าก็ดูว่าทาท่างจะเป็นแม่ยายโดยไม่ได้เต็มใจนะคะ เรื่องมันเกิดตรงที่ว่า.......

 เทพฮาเดสนั้นอยู่เป็นโสดมานานมาก  จนกระทั่งวันหนึ่ง  ในบางตำนานเล่าว่ายักษ์ที่จอมเทพซูสได้กักขังไว้นั้นได้พยายามดิ้นรนที่จะออกจากที่คุมขังซึ่งก็ทำให้แผ่นดิน สั่นสะเทือนไปทั่ว และการสั่นสะเทือนนี้ยังกระเทือนไปถึงอาณาจักรของฮาเดสด้วยเช่นกัน  และการสั่นสะเทือนครั้งนี้ทำให้เทพฮาเดสอดกังวลใจไม่ได้  

จึงได้ขึ้นมาบนพื้นโลกเพื่อสำรวจดูและแล้วก็ได้พบกับโฉมงามเปอร์เซพโฟเน่  เทวีแห่งฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นธิดาองค์เดียวของดีมีเตอร์

ซึ่งพอดี๊พอดีกับที่เทวีวีนัสเห็นเข้าพอดีก็ได้บัญชาการให้คิวปิดโอรสของนางแผลงศรไปปักอกเทพฮาเดสเข้า  ซึ่งผลก็อย่างที่เราทราบๆกัน ผลแห่งศรรักนั้นทำให้เทพฮาเดสหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ

นาทีนั้นเทพฮาเดสไม่คิดอะไรแล้วล่ะค่ะ คิดอย่างเดียวว่าอยากได้โฉมงามที่เห็นตรงหน้านั้นมาเป็นมเหสีให้ได้ พอคิดได้อย่างนี้ปุ๊บก็ฉุดเลยค่ะโดยไม่ได้สนใจนะคะว่าสาวเจ้าจะยินยอมไปเป็นเจ้าสาวให้หรือเปล่า

เทพฮาเดสได้พานางเหาะผ่านมาจนถึงแม่น้ำ ไซเอมี แล้วเกิดเหตุการณ์ว่าแม่น้ำสายนั้นได้พุ่งขึ้นสกัดทางไม่ให้เทพฮาเดสผ่านไปได้   ฮาเดสจึงได้เบี่ยงหลบแล้วเอาสองง่ามซึ่งป็นอาวุธของพระองค์กระทุ้งแผ่นดินให้แยกออกจากกันแล้วได้ชักรถลงไปใต้ภิภพ  แต่ก่อนที่รถของฮาเดสจะแล่นลงไปในยมโลกเปอร์ซีโพเน่ได้แก้สายรัดองค์แล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ พร้อมกับร้องบอกให้ให้นางอัปสรประจำแม่น้ำนั้นนำไปถวายแก่พระมารดาของนาง

ทางฝ่ายเทวีดีมีเตอร์นั้นเมื่อลูกสาวคนเดียวหายไปอย่างไร้ร่องรอย นางจึงมีแต่ความโศกเศร้า นางจึงเที่ยวดั้นด้นออกตามหาลูกสาวไปทั่วทุกที่แต่ไม่มีใครทราบและไม่มีใครเห็นด้วย ( เห็นก็แปลกล่ะค่ะ เล่นดำดินหายลงไปแบบนั้น) ระหว่างออกตามหาลูกสาวอย่างทุกข์ทนอยู่นั้น  นางไม่ได้สนใจที่จะทำหน้าที่ของนางอย่างที่เคยทำมา พืชพันธ์ธัญญาหารช่วงนั้นแห้งแล้งไปทั่ว ชาวโลกนั้นเดือดร้อนเป็นอันมากเลยทีเดียว

แล้ววันนึงนางได้เดินทางมาจนถึงแม่น้ำไซเอมีและได้พบสายรัดองค์ของลูกสาวก็ยิ่งเศร้าใจและเมื่อนั้นนางอัปสรชื่อแอรีธูซ่าซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำพุและเป็นบริวารของเทวีไดอาน่าได้เล่าให้เทวีดีมีเตอร์ฟังว่านางได้ลงไปอาบน้ำในแม่น้ำแอลฟีอัส และเทพแห่งสายน้ำนั้นได้เกี้ยวพาราสีนางและนางก็ไม่สนใจเทพองค์นั้นก็ตื้อไม่เลิก นางจึงได้หนีไปจนถึงเขตของเทพฮาเดสและได้พบว่าธิดาของดิมีเตอร์อยู่ที่นั่น นั่งอยู่บนบัลลังก์หินอ่อนสีดำเคียงคู่กับฮาเดส

เมื่อเทวีดีมิเตอร์ได้ฟังดังนั้นจึงได้ไปร้องเรียนกับจอมเทพซูส ให้ฮาเดสคืนลูกสาวของตนกลับมา ซูสเองก็ได้ส่งเฮอร์มิส ลงไปเจรจากับฮาเดสให้ส่งนางเปอร์ซีโพเน่คืนเพราะมิเช่นนั้นคนบนโลกทั้งหมดอาจจะอดตายได้ แหมลงว่าเฮอร์มิสท่านลงไปเจรจา มีหรือคะว่าจะพลาด 

แต่ทางฮาเดสนั้นเองไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ทั้งโศกเศร้าและทั้งเสียดายที่จะต้องคืนนางอันเป็นที่รักให้แก่ดิมิเตอร์  แต่ทราบมั๊ยคะว่าการเจรจาครั้งนี้มีเงื่อนใขอยู่ตรงที่ว่าถ้านางเปอร์ซีโพเน่กินอาหารของนรกลงไปล่ะก็นางก็ต้องกลายเป็นคนของนรกซึ่งฮาเดสก็มีสิทธิที่จะไม่ส่งคืนก็ได้พอเจรจากันได้เช่นนี้ฮาเดสก็ได้พยายามหลอกล่อทุกวิถีทางที่จะให้นางเปอร์ซีโพเน่กินอาหารในนรกให้ได้

ก็ได้ผลนะคะนางกินเมล็ดทับทิมไป6เมล็ดก็เลยต้องอยู่ในนรก6เดือนค่ะแล้วอีก6เดือนก็กลับไปอยู่กับพระมารดา..แต่บางตำนานเค้าว่า3เมล็ดค่ะก็ไม่รู้ว่า3หรือ6เดือน

..... แต่ที่แน่ๆนางเปอร์ซีโพเน่ ก็กลายเป็นคน2บ้านไปอยู่บ้านแม่บ้าง บ้านสามีบ้าง พอตกลงกันได้เช่นนี้พืชพรรณธัญหารบนโลกก็กลับอุดมสมบูรณ์อีกครั้งค่ะ แต่พอถึงเวลาที่ตกลงกันไว้นางต้องลงกลับไปอยู่ในนรกกับพระสวามีช่วงนั้นธัญหารบนโลกเรานี้ก็กลับแห้งแล้งจะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น

ก็คิดดูเอานะคะช่วงนั้นมันเป็นหน้าหนาวพอดีในทางยุโรปที่นั่นเราก็ทราบกันดีอยู่หน้าหนาวของเค้ามันปลูกอะไรไม่ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ ก็ต้องกินของที่เก็บเตรียมกันเอาไว้

เรื่องของเทวีดีมิเตอร์ก็จบลงแค่นี้ล่ะค่ะ

Visitors: 355,941