ดาว 5 แฉก ดาวศุกร์กับซาตาน
ดาวฤกษ์ในท้องฟ้ามองอย่างไรก็เป็นจุดแสง ดาวเคราะห์เวลาส่องกล้องก็เห็นเป็นแผ่นกลมแล้วทำไมเวลาเราวาดดาวมันถึงกลายเป็นห้าแฉกไปทุกที
หลายคงตอบว่า ก็เห็นกันมาแต่ไหนแต่ไร เลยวาดตามๆกันมา ดาวในธงชาติๆสหรัฐอเมริกา ยังมีดาวอยู่ตั้ง50 ดวง เป็น 5 แฉกทั้งนั้น ธงของประเทศที่เป็นมุสลิมก็มีดาว 5 แฉก อยู่เกือบทุกประเทศ
บางคนอาจจะบอกว่า 5 แฉก วาดง่ายกว่า 6 แฉก 7 แฉก 8 แฉก เพราะว่าลากเส้นทีเดียวไม่ต้องยกดินสอ สะดวกดี วาดเสร็จปุ๊บเห็นแล้วก็รู้ว่าดาว อีกเหตุผลอาจจะเป็นว่า ดาวกระพริบจะมองเห็นเป็นกี่แฉกก็ได้ วาดเป็น 5 แฉกไม่แปลกอะไรนี่นา
รูปดาว 5 แฉกนี้ฝรั่งเขาเรียก Pentagram หรือ Pentacle มันมีมานานแล้ว มันวาดง่ายและมีที่มาจากดวงดาวจริงๆ แต่ไม่ใช่ดาวกระพริบกลายเป็น 5 แฉก เรื่องของดาว 5 แฉก มีความพิศดารกว่านั้น
หลักฐานแรกในโลกที่มีดาว 5 แฉกปรากฏอยู่ เป็นแผ่นดินเหนียว อายุประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตร์กาล พบที่เมืองอูร์ แห่งอาณาจักรสุเมเรีย ในดินแดนเมโสโปเตเมีย อารยธรรมเมโสโปเตเมียในยุครุ่งเรืองใช้ดาว 5 แฉก เป็นพระราชลัญจกรตราแห่งเครื่องหมายอำนาจของจักรวรรดิ
เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าดาว 5 แฉก ถูกค้นพบเมื่อ 6,000 ปีมาแล้ว โดยนักดาราศาสตร์ใน อารยธรรมเมโสโปเตเมีย แห่งลุ่มน้ำไทกริสยูเฟรติส ดาวแห่งเทวีอิชทาร์ เทพธิดาแห่งสงคราม โลกีย์ และความอุดมสมบูรณ์
ดาวศุกร์ เป็นวัตถุส่องสว่างที่สุดในฟากฟ้ารองจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ คนไทยเรียกดาวศุกร์ว่า ดาวประจำเมือง สำหรับดาวศุกร์ในยามย่ำค่ำหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า และเรียกว่า ดาวประกายพรึก เมื่อเห็นดาวศุกร์ตอนเช้ามืดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น คำว่า ประกายพรึก มาจากภาษาเขมร แปลว่า ดาวรุ่ง
ดาวศุกร์มีการคาบโคจรเมื่อมองจากโลกประมาณ 4 ปี นั่นหมายความว่าถ้าเราเห็นดาวศุกร์อยู่ข้างหน้าดาวหัวใจสิงห์ในวันนี้ อีก 4 ปีข้างหน้าเราก็จะเห็นอย่างนี้อีก และในคาบ 4 ปี จะมีบางช่วงเวลาที่เราไม่เห็นดาวศุกร์ เพราะมันไปซ่อนอยู่หลังดวงอาทิตย์ หรือไม่ก็อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์พอดี โอกาสอย่างนี้มีได้ 5 ครั้งในรอบ 4 ปี
เมื่อดาวศุกร์โผล่ออกมาจากข้างหลังของดวงอาทิตย์ เราจะเห็นมันหลังจากอาทิตย์ตก นั่นคือเห็นดาวประจำเมือง ถ้าเพิ่งมาโผล่ไม่กี่วันเราจะเห็นมันแป๊บเดียวก่อนตกตามดวงอาทิตย์ไป
ในกรณีดาวศุกร์ลอยตัดหน้าระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์พอมันพ้นหน้าดวงอาทิตย์ไปแล้ว เราจะเห็นดาวศุกร์ในตอนเช้ามืดเป็นดาวประกายพรึก ถ้าเพิ่งพ้นหน้ามาไม่กี่วัน ดาวประกายพรึกขึ้นไปไม่นานฟ้าก็จะสางกลบแสงดาวหมด ถ้าพ้นหน้ามาไกลแล้ว ดาวประกายพรึกจะโผล่พ้นขอบฟ้าก่อนดวงอาทิตย์นานขึ้นทำใหเราชื่นชมมันได้นานก่อนฟ้าสาง
ดาวประกายพรึกนี่แหละที่เป็นต้นเหตุให้เกิดดาว 5 แฉก
นักดาราศาสตร์แห่งเมโสโปเตเมียน่าจะได้บันทึกไว้เป็นพิเศษ วันที่พวกเขาเห็นดาวประกายพรึกครั้งใหม่ในเช้าแรก หลังจากดาวศุกร์หายเข้าไปในดวงอาทิตย์อยู่ระยะหนึ่งการบันทึกนี้คงทำกันเป็นประจำทุกปี
ในรอบ 4 ปี ดาวศุกร์จะกลายเป็นดาวประกายพรึก 2 ครั้งบ้าง 3 ครั้งบ้าง สลับกันไปในทุกคาบ 4 ปี ดังนั้นผ่านไป 8 ปี จะต้องมีการเป็นดาวประกายพรึก 5 ครั้ง และเป็นดาวประจำเมืองอีก 5 ครั้งเช่นกัน
ถ้าเราโยงเส้นระหว่างกลุ่มดาวที่เกิดดาวประกายพรึกใหม่เป็นครั้งแรกต่อไปยังกลุ่มดาวที่เกิดดาวประกายพรึกใหม่ครั้งที่ 2 3 4 5 และกลับมา 1 ตามลำดับ เราจะได้รูปดาว5แฉก ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายของเทพเจ้าและอำนาจ
ตารางตัวอย่างนี้เป็นข้อมูลดาวศุกร์สำหรับปี ค.ศ. 1995-2002
วันที่ |
กลุ่มดาว ณ วันแรก แห่งประจำเมือง |
กลุ่มดาว ณ วันแรกแห่งประกายพรึก |
21-ส.ค.-95 |
สิงโต |
|
12-มิ.ย.-96 |
|
วัว |
2-เม.ย.-97 |
ปลา |
|
17-ม.ค.-98 |
|
คนยิงธนู |
30-ต.ค.-98 |
ตาชั่ง |
|
20-ส.ค.-99 |
|
สิงโต |
13-มิ.ย.-00 |
วัว |
|
28-มี.ค.-01 |
|
ปลา |
14-ม.ค.-02 |
คนยิงธนู |
|
31-ต.ค.-02 |
|
ตาชั่ง |
รูปดาว 5 แฉกแพร่หลายอยู่ในทวีปเอเชียกลางถึงยุโรปนอกจากความวาดง่าย ยังมีการค้นพบอีกด้วยว่า ถ้าวาดรูปดาวนี้ให้มุมของแต่ละแฉกเท่ากับ 72 องศาพอดี (ถ้าเรากำหนดองศาของดาวศุกร์ให้แม่นยำจริงๆ มุมของดาวศุกร์ก็จะเกือบเป็น 72 องศาอยู่แล้ว ) จุดตัดของแต่ละเส้นจะแบ่งเส้นนั้นที่จุดอัตราส่วนทองคำ (golden ratio 0.61803: 1 ซึ่งเท่ากับ 1:1.61803) ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดในการจัดองค์ประกอบศิลปะ
ในประเทศจีน การจัดลำดับของธาตุทั้ง5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ ทอง ทำให้เกิดรูปรูปดาว 5 แฉก ได้เหมือนกันแต่นอกเหนือจากนั้นดาว 5 แฉกไม่มีความหมายเป็นพิเศษในวัฒนธรรมจีน
ทางยุโรป มีการใช้ภาพดาว 5 แฉกทั้งแบบเนเส้นโครงและแบบระบายสีทึบ มีวงกลมล้อมรอบและไม่มี ชาวคริสต์ยุคแรกยกให้ดาว 5 แฉกเป็นสัญลักษณ์แทนพระเยซู ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นไม้กางเขนในเวลาต่อมา ลัทธิและสมาคมต่างๆ ทั้งสว่างและมืดก็รับตรานี้ไว้ใช้กันหลายแห่ง
ในศตวรรษที่ 19 มีผู้วาดภาพอสูรตนหนึ่ง ชื่อ บาโฟเม็ต (Baphomet) มีหน้ากับลำตัวครึ่งล่างเป็นแพะ ครึ่งตัวบนเป็นมนุษย์ผู้หญิง โดยให้สัดส่วนของมันวางได้พอดีอยู่ภายในภาพดาว 5 แฉก หัวกลับตั้งแต่นั้นมาดาวหัวกลับ จึงถือกันว่าเป็นเครื่องหมายของซาตาน ความชั่วร้าย และแม่มดฝ่ายมืด บางคนถึงกับอ้างว่า รอยเท้าของซาตานเป็นรูปดาว 5 แฉก
ปัจจุบันรูปดาว 5 แฉกไม่ว่าในรูปแบบไหน กลับหัวหรือไม่ ถึงมันจะไม่เหมือนดาวจริงๆ เราก็ทราบกันทั่วไปว่าหมายถึงดาวในท้องฟ้า ความหมายในทางดีและทางร้ายของดาว 5 แฉกนั้น เล่าก็ยังไม่สูญหายไปไหน แต่ที่เห็นใช้กันอยู่ดาษดื่น ผู้ใช้ยังคงมุ่งหมายให้เป็นดาวเฉยๆ ไม่มีสิ่งอื่นแอบแฝง
นับว่าเป็นการเดินทางอันยาวไกล จากสาวกของเทวีอิชทาร์เมื่อ 6,000 ปีก่อน มาถึงพวกเราในยุคนี้
จาก หนังสือคนค้นดาว โดย “วิษณุ เอื้อชูเกียรติ”