หลวงตอบปัญหาเรื่องการทำหมันบาปไหม

มีผู้มาสอบถามหลวงพ่อฤาษีเรื่องการทำหมันสัตว์และการทำหมันตนเองจะบาปไหม

ผู้ถาม  :            “หลวงพ่อคะ อย่างทำหมันหมา บาปไหมคะ...?”

หลวงพ่อ :       “ทำหมันหมา ฉันฟังนึกว่าจับหมัดหมา ทำหมันเขาทำกันยังไง...?”

ผู้ถาม  :            “การตอนน่ะคะ...”

หลวงพ่อ  :      “ตอนก็ตอนบอกทำหมัน เอ...ต้องไปถามหมามันก่อนซิ หมามันพอใจไหมล่ะ...?”

ผู้ถาม  :            (หัวเราะ)

หลวงพ่อ  :      “เอ้า...จริง ๆ ต้องไปถามมันก่อน ถ้าหมาพอใจ อันนี้ไม่บาป”

ผู้ถาม  :            “แล้วจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าหมามันพอใจ...?”

หลวงพ่อ  :      “อ้าว...ก็ต้องไปเรียนภาษาหมาก่อนซิ”

ผู้ถาม  :            (หัวเราะ)

หลวงพ่อ  :      “การตอนสัตว์ ท่านพูดไว้ในตติยสามน ตายแล้วต้องตกนรกก่อน ออกจากเปรตมาเป็นอสุรกาย ออกจากอสุรกายก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะถูกทำลายเพศ ใช่ไหม...พอพ้นจากนั้นแล้วก็มาเป็นบัณเฑาะก์ มี ๒ เพศ มีมั้งเพศผู้ชายและผู้หญิง จากนั้นก็มาเป็นกะเทย แล้วจึงมาเป็นคนปกติ”

ผู้ถาม  :            “แล้วถ้าเราทำหมันตัวเองจะบาปไหมคะ...?”

หลวงพ่อ  :      “ทำหมันตัวเองใครเขาจะไปว่าล่ะ ไม่บาปหรอก อันนี้เราพอใจต่างหากล่ะ ช่วยทำหมันให้ทีเถอะ ฉันลูกมาก ๆ ไม่เป็นเรื่องแล้ว”

ผู้ถาม  :            “ถ้ากันหมาไม่ให้ผสมกันเล่าคะ...?”

หลวงพ่อ  :      “นี่ละ ไฟไหม้บ้านกันหลายหนก็แบบนี้ละ มีตากับยายคู่หนึ่ง เขาฝากคนไป

ถามปัญหาพระกาลว่า เขาทั้งสองทำอะไรมา ไฟมันจึงใหม้บ้านอยู่เสมอ พระกาลก็บอกคนที่ไปถามว่า สมัยชาติก่อนแกมีลูกสาว แต่ว่าหวงไม่ยอมให้แต่งงาน ใครมาขอก็ไม่ให้ เหตุเพราะอาศัยการตัดทอนกำลังใจในด้านความรักของเขา ชาตินี้มาไฟจึงไหม้บ้านเรื่อย ๆ ฉะนั้นคุณก็ต้องระวังนะ”

ผู้ถาม :             “แล้วอย่างเรากินยาถ่ายพยาธิ อย่างนี้จะถือเป็นการทำลายชีวิตสัตว์ไหมคะ...?”

หลวงพ่อ :       “อันนี้พระพุทธเจ้าท่านถือว่าเป็นเชื้อโรคเป็นการรักษาโรคในร่างกายของเรา ไม่เป็นบาป”

ผู้ถาม  :            “ถ้าเราทรมานสัตว์หรือตีสัตว์ อย่างนี้ศีล ๕ จะขาดไหมครับ...?”

หลวงพ่อ  :      “อย่างนี้เรียกว่า ศีลทะลุ ยังไม่ขาด”

ผู้ถาม  :            “หมายความว่าศีลยังไม่บริสุทธิ์ใช่ไหมครับ...?”

หลวงพ่อ  :      “ยังไม่บริสุทธิ์ ศีลยังมีอยู่แต่ว่ามันทะลุ ไม่ใช่ขาดเพราะมันยังไม่ตาย แต่ว่าศีลมันทะลุไปแล้ว”

ผู้ถาม  :            “เป็นอย่างไรครับ ศีลทะลุ”

หลวงพ่อ  :      “ตีให้เจ็บแต่ยังไม่ตาย อันนี้เรียกว่า ศีลทะลุ ถ้ามันเข้ามา นึกโมโหเงื้อมมือจะตี ไอ้นี่ ศีลด่าง แต่ถ้านึก ๆ เดี๋ยวพ่อตีเสียดีหว่า....ไอ้นี่ ศีลพร้อย คือตัวเมตตามันหลวมไปหน่อย แต่ถ้ามันเดินมาเราเมตตาให้อาหารแก่มัน อันนี้ ศีลบริสุทธิ์”

ผู้ถาม :             “ครับ...เข้าใจแล้วครับ กระผมเรียนถามอีกข้อว่า ถ้าเรารักษาศีล ๕ แต่ว่าไม่มีพรหมวิหาร ๔ จะรักษาศีล ๕ ได้ไหมครับ...?”

หลวงพ่อ  :      “ไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีพรหมวิหาร ๔ ศีล ๕ มันก็ไม่อยู่แล้ว ถ้าคุณมีศีล ๕ อยู่ แสดงว่าพรหมวิหาร ๔ คุณมีแต่คุณไม่รู้จักหน้ามันเอง คนไม่มีเมตตามันมีศีลได้ยังไงล่ะ...?”

ผู้ถาม  :            “คือเราไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ตัดชีวิตนะครับ...”

หลวงพ่อ  :      “ก็นั่นแหละ มันเป็นตัวพรหมวิหาร ๔ อยู่แล้วเราอาจจะไม่รู้ว่าเป็นพรหม

วิหาร ใช่ไหม...เราจะคิดว่าฉันไม่มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ความจริงมันมี ถ้าไม่มีพรหมวิหาร ๔ เรารักษาศีล ๕ ไม่ได้ ถ้าหากว่าศีล ๕ บริสุทธิ์ก็ชื่อว่าเรามีพรหมวิหาร ๔ แต่ว่ากำลังตัวท้ายมันจะเข้มข้นหรือไม่ไอ้ตัวหนึ่งกับตัวสองมันดีแน่นอนคือใช้ได้

            คนที่จะมีศีล ๕ ได้ต้องมีเมตตา กรุณา แล้วก็สันโดษ ไม่งั้นศีลมันทรงอยู่ไม่ได้ แต่ว่ามันจะมีโดยที่เราไม่รู้สึกตัว เราไม่รู้จักหน้ามันเอง เพราะเรามุ่งแต่สิกขาบท ใช่ไหม...แต่ความจริงมันต้องมีพรหมวิหาร ๔ หนุน ไม่งั้นศีล ๕ มีไม่ได้”

Visitors: 355,861