ยุคสมัยของโหราศาสตร์


เพื่อตอบคำถามนี้  เราต้องให้คำจำกัดความว่า ‘ยุคโหราศาสตร์’ คืออะไร  และตรวจสอบลักษณะอัตลักษณ์ของผู้ที่ควบคุมเราระหว่าง 10,000 ปีที่ผ่านมานี้

                ยุคสมัยแห่งโหราศาสตร์ได้ชื่อจากราศีต่างๆในจักรราศีที่อาทิตย์มีตำแหน่งอยู่ที่วสันตวิษุวัต (vernal equinox) อันเป็นจุดแบ่งฤดูใบไม้ผลิที่ช่วงเวลาที่อาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรพอดี  และทำให้กลางวันเท่ากับกลางคืนในฤดูใบไม้ผลิ (21 มีนาคม) 

 ในปัจจุบันตำแหน่งของอาทิตย์ตกอยู่ที่ราศีมีน ซึ่งบอกกับเราว่าเรากำลังอยู่ในยุคสมัยของราศีมีน ระยะเวลาของยุคสมัยจะวัดด้วยจุดแบ่งฤดู (equinox : วิษุวัต) อันเป็นเวลาที่อาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรเพื่อถอยหลัง  หรือก้าวไปข้างหน้าผ่านราศีนั้น  

เราได้มาถึงจุดที่อาทิตย์อยู่ใกล้ เบต้า ปิสชีอุม (beta piscium)  ซึ่งเป็นปากของปลาทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกลุ่มดาวราศีมีน ณ จุดแบ่งฤดูใบไม้ผลิ  ในช่วงระยะเวลาอีกไม่กี่ปีนี้  จุดวิษุวัตจะนำหน้าเข้าไปในราศีกุมภ์  ซึ่งเป็นเวลาที่ยุคสมัยแห่งราศีกุมภ์จะเริ่มต้นขึ้น

                การเคลื่อนของวิษุวัต (จุดแบ่งฤดู) นั้น  มีสาเหตุมาจากโลกเอนไปเอียงมาบนแกนของโลกเอง  ซึ่งทำให้มีการย้ายจุดที่อาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรจากตะวันออกไปยังตะวันตกอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเพราะการดึง  โดยมีแรงโน้มถ่วงของอาทิตย์และจันทร์  การเอียงไปเอียงมาจะช้าและค่อนข้างเห็นชัด  ช่วงวิษุวัตใช้เวลาประมาณ 25,900 ปี เพื่อที่จะเดินทางไปข้างหน้าผ่านราศีทั้งสิบสองราศีในจักรราศี  อันเป็นระยะเวลาที่เรียกกันว่า ปีที่ยิ่งใหญ่ (The great year)

                หากเราหาร ๒๕,๙๐๐ ปีด้วย ๑๒  เราจะได้เวลาที่ใช้สำหรับวิษุวัต  อันเป็นช่วงเวลาที่อาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรพอดี [สำหรับทั้งวิษุวัตทั้งคู่ คือ วสันตวิษุวัต กับ ศารทวิษุวัต  อันเป็นช่วงเวลาที่อาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรพอดีในฤดูใบไม้ผลิ  และฤดูใบไม้ร่วง  คือ ๒๑ มีนาคม และ ๒๒ กันยายน  และสำหรับทั้งจุดที่ถึงของฤดูร้อนกับจุดที่ถึงของฤดูหนาว  อันเป็นเวลาของปีที่ดวงอาทิตย์ห่าง  ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด (๒๑ มิถุนายน  และ ๒๒ ธันวาคม) กำลังนำหน้าผ่านจักรราศี]  เพื่อเคลื่อนผ่านราศีหนึ่งใด  คือ ๒,๑๕๘ ปี  นี่เป็นความยาวของยุคโหราศาสตร์

                ประมาณพุทธศักราช ๔๐๐ เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ในเส้นตรงกับ กัมม่า อริคติส (gamma arictis) หรือ เมสาร์ธิม (mesarthim)  ณ จุดวสันตวิษุวัต ที่นักดาราศาสตร์ของกรีกชื่อ ฮิปปาร์คุส (hipparcus) ได้ค้นพบว่า จุดวิษุวัตกำลังนำหน้าไม่นาน  หลังจากนั้นในเวลาประมาณปีพุทธศักราช ๕๔๐  จุดวสันตวิษุวัตนั้นเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ออกจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน  ทำให้เป็นเวลาที่ยุคสมัยแห่งราศีมีนเริ่มต้นขึ้น  โดยใช้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานของเรา  เราสามารถคำนวณได้ว่า  ยุคสมัยของราศีกุมภ์จะเริ่มในปี พ.ศ.๒๖๐๑  ในทำนองเดียวกัน  โดยการคิดย้อนหลังเราสามารถคำนวณได้ว่า

ยุคสมัยของราศีเมษ เริ่มในปี ๑๗๑๕ ก่อนพุทธศักราช

ยุคสมัยแห่งราศีเมษนำหน้าด้วยยุคสมัยแห่งราศีพฤษภ (๓,๘๗๓-๑,๗๑๕ ปีก่อน พ.ศ.)

ยุคสมัยแห่งราศีพฤษภนำหน้าด้วยยุคสมัยแห่งราศีมิถุน (๖,๐๓๑-๓,๘๗๓ ก่อน พ.ศ.)

ยุคสมัยแห่งราศีมิถุนนำหน้าด้วยยุคสมัยแห่งราศีกรกฎ (๘,๑๘๙-๖,๐๓๑ ก่อน พ.ศ.)

และยุคสมัยแห่งราศีกรกฎนำหน้าด้วยราศีสิงห์ (๑๐,๓๔๗-๘,๑๘๙  ปีก่อน พ.ศ.)

 

ดังนั้น  ตั้งแต่ปลายยุคน้ำแข็งที่ผ่านมา  ซึ่งสิ้นสุดไป (โดยมีความเหมาะสมเพียงพอ) ในยุคของราศีสิงห์และการเริ่มของยุคปัจจุบันแห่งราศีมีน  มียุคโหราศาสตร์ห้ายุค คือ ราศีสิงห์  ราศีกรกฎ  ราศีมิถุน  ราศีพฤษภ  และราศีเมษ  ระหว่างแต่ละช่วงถือกันว่าอัตลักษณ์ (ลักษณะนิสัย) ของคนในราศีที่เกี่ยวข้องกับโลกโดยทั่วไปและทั้งกิจกรรมของมนุษย์ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

 

กรีกโบราณเชื่อว่ามีเชื้อชาติมนุษย์อยู่ ๕ เชื้อชาติ  ซึ่งพวกเขาเป็นเชื้อชาติสุดท้ายและเสื่อมที่สุด  เฮสีโอดอส (hesiodos) กวีกรีกซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ ๑๕๐ ปีก่อน พ.ศ.  ซึ่งเป็นเวลาก่อนการค้นพบการเคลื่อนของปี (The precession of the equinoxes : การเคลื่อนของวิษุวัต)  และข้อคิดเห็นเกี่ยวกับยุคโหราศาสตร์ได้รับการสถาปนาขึ้นมา  ทำให้มีภาพของเชื้อชาติทั้ง ๕ อยู่ใน ‘งานและวัน’ ซึ่งเป็นผลงานของเขา  ที่พรรณนาถึงลัทธิความเชื่อของประชากรกรีกไว้ อาทิ

เทพเจ้าซึ่งอยู่บนเขาโอลิมปัส

ครั้งแรกนั้นจะเป็นเชื้อชาติของมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่

พวกเขามีชีวิตอยู่ในยุคราชวงศ์โครนอส  กษัตริย์แห่งสวรรค์

และเหมือนดังเช่นเทพเจ้า  พวกเขามีชีวิตอยู่ด้วยหัวใจที่เป็นสุข

ไม่มีสิ่งใดจะมาแตะต้องเขาได้  ไม่ว่างานหรือความโศกเศร้า

ความชราที่เสื่อมถอย

ไม่เคยปรากฏ  แต่มีแขนขาที่มีชีวิตชีวา

ไกลจากความเจ็บป่วยทั้งมวล  เขาจะเลี้ยงฉลองอย่างมีความสุข

มนุษย์ที่ประสบชะตากรรมทั้งหลายดังที่กวีกล่าวถึงเหล่านี้  ‘ซ่อนอยู่ในพื้นดิน’  ชั่วกาลนาน  และอย่างไม่ต้องมีภาระหน้าที่รับผิดชอบใดๆ  เพื่อที่จะแทนที่พวกเขา  เทพเจ้า  “จะหาเชื้อชาติที่เป็นธาตุเงินที่มีเนื้อเงินน้อยกว่าของมนุษย์”  ซึ่งเป็นเพราะเขา  “ทำให้บาดเจ็บแก่กันและกันและละทิ้งเทพเจ้า”  จึงทำให้  “เชื้อชาติบรอนซ์ ถูกขับไล่ออก  และถูกเข้าแทนที่โดนเชื้อชาติทองเหลือง  แต่ความยุติธรรมและดีกว่า  เป็นเชื้อชาติแห่งวีรบุรุษที่เหมือนเทพเจ้า”  ซึ่งติดตามมาด้วยผู้คนของยุคสมัยแห่ง เฮสีโอดอส ที่เป็น ‘เชื้อชาติเหล็ก’

สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับเชื้อชาติทั้งห้าของมนุษย์ คือ แต่ละเชื้อชาติสามารถประสานเข้ากับยุคใดยุคหนึ่งของยุคโหราศาสตร์ทั้ง ๕ ยุคที่กล่าวมาข้างต้นนี้

 

ยุคสมัยแห่งราศีสิงห์  ตรงกับระยะเวลาที่เชื้อชาติทองคำมีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นเหนือสิ่งใด  ดาวพระเคราะห์ผู้ปกครองหรือควบคุมของราศีสิงห์  คือ  ดวงอาทิตย์  โลหะของราศีสิงห์  คือ ทองคำ  ในระหว่างยุคสมัยนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้น  ทำให้เกิดการละลายของแผ่นน้ำแข็งใหญ่ที่ปกคลุมส่วนใหญ่ของซีกโลกเหนือ

 

ยุคสมัยแห่งราศีสิงห์  ตามมาด้วย  ยุคสมัยแห่งราศีกรกฎ  ซึ่งเป็นราศีที่ควบคุมด้วยจันทร์  โลหะของจันทร์ คือ เงิน  ยุคนี้ตรงกับเวลาที่เชื้อชาติเงินของเฮสีโอดอส  มีชีวิตอยู่ราศีกรกฎ  จะสัมพันธ์กับน้ำและทะเล  และในระหว่างช่วงนี้  หลังจากการละลายของก้อนน้ำแข็งแล้ว  มหาสมุทรที่เรารู้จักทุกวันนี้ได้ปรากฏขึ้น

 

ยุคสมัยแห่งราศีมิถุน  เป็นยุคสมัยต่อจากยุคสมัยแห่งราศีกรกฎ  ยุคสมัยแห่งราศีมิถุน  สามารถแสดงด้วยสัญลักษณ์ของเชื้อชาติทองเหลืองอันเป็นเชื้อชาติแรกสุดที่ เฮสีโอดอส มีชีวิตอยู่ “เป็นเชื้อชาติที่รักเสียงร้องและความรุนแรงของสงคราม” ในระหว่างช่วงนี้  ประมาณ ๕,๕๐๐ ปีก่อน พ.ศ. ที่เริ่มใช้ทองแดง  ซึ่งเมื้อใช้ความร้อนแล้วก็จะนำไปสู่การผลิตทองบรอนซ์ (ทองสัมฤทธิ์) และในขณะที่ปรอทซึ่งเป็นโลหะของพุธ  ผู้ควบคุมราศีมิถุนไม่มีส่วนในการทำบรอนซ์  ดีบุก  กลับมีส่วนในการทำบรอนซ์  ดีบุกเป็นโลหะของพฤหัสบดี  ผู้ควบคุมราศีธนูอันเป็นราศีที่อยู่ตรงข้ามกับราศีมิถุนในจักรราศี

 

ยุคสมัยแห่งราศีพฤษภ  ที่ตามมาตรงกับช่วงเวลาที่เชื้อชาติบรอนซ์ที่เป็นเชื้อชาติที่สองของ เฮสีโอดอส มีชีวิตอยู่  ราศีพฤษภควบคุมโดยศุกร์  ซึ่งโลหะ คือ ทองแดง  อันเป็นส่วนผสมที่สำคัญของบรอนซ์  ยุคสมัยของราศีพฤษภเริ่มมา ๓,๘๗๓ ปีก่อน พ.ศ.  ซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มการใช้ความร้อนกับทองแดง  ทำให้โลหะแตกหักน้อยลง  บรอนซ์ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ ๒,๕๐๐ ปีก่อน พ.ศ. ระหว่างครึ่งหลังของยุคสมัยแห่งราศีพฤษภ

 

ชาวกรีกโบราณมีชีวิตอยู่ระหว่างยุคราศีเมษ (แกะตัวผู้)  ตามความคิดของเฮสีโอดอส  ชาวกรีกโบราณเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อชาติเหล็ก  ราศีเมษควบคุมด้วยอังคาร  ซึ่งโลหะ คือ เหล็ก

ยุคสมัยเหล่านี้โดยพื้นฐานจะเข้ากันได้กับยุคทั้งสามยุคของโบราณคดีสมัยใหม่  คือ ยุคหิน  ยุคทองสัมฤทธิ์ (ยุคบรอนซ์) และยุคเหล็ก  ซึ่งตั้งชื่อตามวัสดุหรือโลหะหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องมือและอาวุธ  ยุคสมัยแห่งราศีสิงห์และราศีกรกฎรวมกัน  จะประกอบเป็นยุคหินของโบราณคดี  เมื่อมนุษยชาติอาศัยอยู่ในกลุ่มชนเผ่าธรรมดา  และมีชีวิตอยู่รอดโดยการล่าสัตว์และการเพาะปลูก  เฮสีโอดอสกล่าวอย่างถูกต้องว่า “โดยไม่ลังเล พื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ให้ไม้ผลโดยไม่ต้องทวงถาม  โดยมีความสุขที่จะอยู่อย่างสงบ  พวกเขามีชีวิตอยู่โดยได้รับการตอบสนองในความต้องการทุกอย่าง”  ในทำนองเดียวกัน  ยุคสมัยแห่งราศีมิถุนและยุคสมัยแห่งราศีพฤษภรวมกันจะประกอบเป็นยุคทองบรอนซ์ (ทองสัมฤทธิ์) ในทางโบราณคดี  ในขณะที่ยุคแห่งราศีเมษตรงกับยุคเหล็ก

 

ในระหว่าง ยุคราศีมิถุน  ซึ่งเป็นเวลาตั้งแต่ประมาณ ๖,๐๓๑ ปีก่อนพุทธกาลจวบจนถึง ๓,๘๗๓ ปีก่อนพุทธกาล  ที่มนุษยชาติดำเนินตามขั้นตอนเป็นช่วงๆ ในระยะแรกสุดของตนไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า ชีวิตที่มี ‘อารยธรรม’ (ชีวิตศิวิไลซ์)  งานทำโลหะได้เริ่มต้นขึ้น  ซึ่งนำไปสู่การใช้ทองแดงเพื่อผลิตอาวุธและเครื่องประดับ เช่น  เข็มกลัด และสายรัดแขน  การค้าระหว่างกลุ่มชนเผ่าที่แตกต่างกันได้เริ่มขึ้น  ซึ่งเป็นผลให้เกิดความขัดแย้ง  และมีการทำปศุสัตว์ คือ เลี้ยงโค  กระบือ  แกะ และแพะ  ดังนั้น  จึงไม่น่าประหลาดใจที่ทราบว่าชาวกรีกเรียกพุธ (หรือเฮอร์มัส) ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งงานโลหะ  การค้า  และการพาณิชย์ฝูงสัตว์ต่างๆ  และฝูงโค  กระบือ

 

ราศีพฤษภ  สัญลักษณ์คือ วัวตัวผู้  เป็นธาตุดิน  มีราศีสัมพันธ์กับการเกษตรและชีวิตชนบท  และระหว่าง ยุคราศีพฤษภ  ซึ่งเริ่มในช่วงประมาณ ๓,๘๗๓ ปีก่อน พ.ศ.  และใช้เวลาจนถึงประมาณ ๑,๗๑๕ ปีก่อน พ.ศ.  ที่การตั้งถิ่นฐานได้จัดตั้งขึ้นบนชายฝั่งของแม่น้ำ ฌีกริส กับ อิวฟราเตส (Tigris & Euphrates)  และต่อมาแม่น้ำไนล์ของไอยคุปต์  นครต่างๆในสุเมร์สร้างขึ้นด้วยอิฐเผา  มีการพัฒนาการเกษตรและชนชั้นที่มีเวลาว่างจะมีทั้งเวลาและความสนใจที่จะเป็นผู้สร้างสรรค์ในทางศิลปะ  และกิจกรรมเหล่านี้คือ  การก่อสร้าง  การทำนา  และศิลปะ  เป็นของชาวราศีพฤษภ  ทั้งอารยธรรมเมโสโปตาเมีย  และอารยธรรมไอยคุปต์  ถ้าไม่ขึ้นอยู่กับการชลประทานก็ขึ้นอยู่กับการทดน้ำ  ซึ่งทำให้พวกเขาเพาะปลูกบนพื้นดินที่แห้งเกรียม  ในจักรราศีนั้น  ราศีที่อยู่ตรงข้ามกับราศีพฤษภ คือ ราศีพิจิก  ซึ่งเป็นธาตุน้ำ

 

การบูชาวัวตัวผู้  เป็นที่นิยมกันในระหว่างช่วงระยะเวลานี้  เอ็นลิล  หรือเทพเจ้าแห่งลม  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดทั้งสามของสุเมร์  และได้รับการบูชาว่าเป็นผู้อุปถัมภ์ของพื้นดิน  มักปรากฏในรูปวัวตัวผู้  หรือขี่วัวตัวผู้  ในไอยคุปต์  เทพโบราณชื่อ ‘ปตาห์’  ซึ่งสำคัญมากที่สุดเป็นอันดับสาม  ในบรรดาเทพเจ้าทั้งหมดรับผิดชอบงานสร้างวัด  งานโลหะ  และศิลปะนั้น  กล่าวกันว่า  กลับชาติมาเกิดเป็นเทพเจ้าตัวผู้ ชื่อ อาปิส  ในแง่ข้อเท็จจริง  วัวตัวผู้ที่มีชีวิต  ซึ่งมักจะแยกไว้โดยทำเครื่องหมายบางอย่าง  เช่น  สามเหลี่ยมสีขาวบนหน้าผากของวัว  และจันทร์เสี้ยวหนึ่งบนสีข้างด้านขวาของวัว  ซึ่งได้เก็บไว้ที่ เมมฟิส  และจะมีการพยากรณ์อนาคตจากการเคลื่อนไหวของวัวนั้น  การขุดค้นทางโบราณคดีของชาวไอยคุปต์ได้พบวัวตัวผู้ที่เป็นมัมมี่แล้วมากมาย  ซึ่งถูกฝังอย่างเห็นได้ชัดเจนด้วยพิธีการอันยิ่งใหญ่ในโลงหินที่โอ่อ่า

 

ยุคสมัยของราศีพฤษภมีลักษณะพิเศษ คือ สิ่งก่อสร้างจำนวนมาก  และการเกษตรได้สิ้นสุดลงโดยการสร้างปิรามิดใหญ่ที่สุด คือ ปิรามิดใหญ่ ณ เมืองกีศา  ซึ่งผู้สร้างคือ คูฟู หรือ เฅออปส์

 

ยุคสมัยแห่งราศีเมษ  ซึ่งเริ่มในช่วงประมาณ ๑,๗๑๕ ปีก่อน พ.ศ.  เริ่มมี สุริยคราส หรือ จันทรคราส ของอาธรรมดิน-น้ำที่เก่าแก่  และการอุบัติขึ้นของกลุ่มที่มีลักษณะสงครามที่แตกต่างกันอย่างมากมาย  เป็นช่วงระยะแห่งสงครามอย่างเด่นเป็นพิเศษ  ส่วนใหญ่เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า แรงผลักดันของประชาชนเป็นสาเหตุให้มีการอพยพโยกย้ายขนาดใหญ่  ซึ่งนำคนที่มีความแตกต่างกันเข้าไปสู่ความขัดแย้งกัน  ไม่น่าประหลาดใจเลยว่ายุคสมัยนี้สิ้นสุดในช่วงเริ่มต้นจักรวรรดิโรมัน

 

ตามที่อาจจะคาดคิดได้จากความเข้าใจในทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับพลังงานของเทพเจ้าแห่งสงคราม  ยุคสมัยแห่งราศีเมษเป็นยุคสร้างสวรรค์สำหรับมนุษยชาติ  เป็นที่ทราบกันดีว่า  ความเป็นจ้าวโลกของ อัคคัด  เหมือนนครต่างๆของหุบเขาแห่ง ฌีกริส กับ อิวฟราเตส นั้น  ได้แตกสลายไปเพราะการปฏิวัติภายใน  และการแทรกแซงของต่างชาติ  และขณะที่สภาพนี้มีผลต่อการฟื้นฟูชีวิตใหม่ของชาวสุเมร์  ก็ได้มีการสร้าง ‘ศิกกูรัต’  (Ziggurat)  ที่มีชื่อเสียง  แรงผลักดันภายนอกมีกำลังมากเกินกว่าที่จะทนได้  จริงๆแล้วในปี ๑,๔๖๓ ก่อน พ.ศ. เมืองอุร์ เองก็ถูกปล้นสะดมโดย เอลามีเด และ จักรวรรดิสุเมร์ และอัคคัด ถูกโค่นล้ม

 

ไอยคุปต์ถูกแทรกแซงโดย ฮิคสอส เช่นกัน  ประมาณ ๑๓๕๗ ปีก่อน พ.ศ. และยังคงอยู่ในอำนาจของ ฮิคสอส เป็นเวลาเกือบสองร้อยปี  แต่แม้หลังจากที่ถูกตีพ่ายแพ้และขับไล่ออกไปจากไอยคุปต์แล้ว  การข่มขู่ของการรุกรานต่างประเทศก็ยังคงมีอยู่  ฟาโรห์ จะต้องระดมการทำสงครามต่อต้านพวก ขาวเฮตติต (Hettit : อังกฤษ เรียกว่า ฮิตไทต์)  ชาวทะเล  ชาวลิเบีย  และชาวอัสซีเรีย  แต่อย่างไรก็ตามในที่สุด  ไอยคุปต์ก็ถูกพิชิตโดยชาวโรมัน

 

ได้มีการเริ่มงาน ตีเหล็ก ครั้งแรกในช่วงประมาณ ๑,๐๐๐ ปีก่อน พ.ศ. โดยชาวเฮตติต  ซึ่งได้ก่อตั้งจักรวรรดิในเอเชียน้อย  ซึ่งเป็นจักรวรรดิอยู่จนถึง ๖๘๒ ปีก่อน พ.ศ.  ชาวเฮตติตเก็บรักษาการหลอมเหล็กไว้เป็นความลับเอง  จนกระทั่งสลายจักรวรรดิไป  เมื่อถึงเวลานั้นการหลอมเหล็กก็แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว  เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เรียนรู้การหลอมเหล็กเพื่อประโยชน์ทางการทหาร  อาวุธเหล็กมีความเหนือกว่าอาวุธที่ทำด้วยบรอนซ์ (ทองสัมฤทธิ์) เป็นอย่างมาก  ช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นยุคเหล็กทางโบราณคดี  และเป็นช่วง ‘เชื้อชาติเหล็ก’  ของ เฮสีโอดอส  เริ่มต้นขึ้น  กวีผู้นี้คือ เฮสีโอดอส  ได้กล่าวอย่างเศร้าสร้อยว่า

ฉันหวังว่าฉันคงไม่เป็นคนในเชื้อชาตินี้

หวังว่าฉันคงตายไปเสียก่อน หรือ ยังไม่เกิดมาเลย

นี่เป็นเชื้อชาติเหล็กแห่งความแข็งแกร่งซึ่งในเวลากลางวัน

คนจะทำงานและเศร้าเสียใจไม่หยุดหย่อนในเวลากลางคืน

พวกเขาจะผ่ายผอมและตายไป

แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากที่เกิดขึ้นในระหว่างยุคราศีเมษ  มีผลปลุกเร้าความคิดของคน  ระยะเวลานี้มีการเริ่มต้นในด้านวิทยาศาสตร์และปรัชญา  และมีความก้าวหน้าที่สำคัญๆในคณิตศาสตร์  เรขาคณิต  ดาราศาสตร์  และภูมิศาสตร์

 

ผู้ที่ทำให้เกิดขั้นตอนที่ก้าวหน้าเหล่านี้ได้แก่ ชาวกรีก  ซึ่งเป็นตัวแทนจิตใจของยุคนั้นๆได้ดีที่สุด  ในช่วงระยะเวลาของกรีกยุคบุพกาล  การบูชาวัวตัวผู้ถูกขัดขวางและ ศิวส์ เป็นเด็กคนหนึ่ง  ศิวส์ จะให้เงาของแกะตัวนี้ติดตัวไปด้วย  เช่นเมื่อ  โอลึมปุส  ถูกโจมตีโดย ตือฟอน (Typhon) ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาด  แน่นอนว่าราศีเมษเป็นราศีของแกะ  และมีสัญลักษณ์ใกล้เคียงกับปัจเจกบุคคลและตัวตนหรือตัวของคนแต่ละคนเอง  ดังนั้น ไม่น่าประหลาดใจเลยว่าชาวกรีกเกลียดทรราชย์  และชอบประชาธิปไตย  ซึ่งทำให้คนแต่ละคนเข้าร่วมในการบริหารรัฐ

 

ส่วนใหญ่ของบุคลิกภาพของคนในยุคราศีเมษ  สามารถสันนิษฐานได้ว่าราศีตุลย์  ซึ่งปกครองโดยดาวศุกร์นั้นอยู่ตรงข้ามกับราศีเมษในจักรราศี  ความตึงเครียดระหว่างอังคารกับศุกร์  ทำให้เกิดลักษณะนิสัยเป็นคนชอบทำลายและสร้างสรรค์แห่งยุคสมัย

แต่เพราะชาวโรมัน และวัฒนธรรมของชาวโรมันนั่นเอง  ที่เกิดการแสดงเครื่องหมายอันมีเกียรติของยุคสมัยราศีเมษ  ชา

วโรมันโจมตีศัตรูแถบทะเลกลาง (Mediteranian) ที่เป็นศัตรูสำคัญ คือ ชาวคาเธจ (cathaginian) แตกพ่ายไปในช่วง พ.ศ.๓๙๗  และจากจุดนั้นเป็นต้นมาก็ได้ก่อตั้งจักรวรรดิโรมัน  ซึ่งเมื่อขยายอาณาเขตเต็มที่ได้ขยายจากเกาะบริเตนในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ไปถึงอาร์เมเนียในตะวันออกไกล  กรุงโรมได้นำระเบียบวินัย  ข้อบังคับ  และกฎของกฎหมาย มาให้แก่เพื่อนบ้านที่เป็นอนารยชนป่าเถื่อนส่วนใหญ่  และมณฑลในยุโรปที่โรมันก่อตั้งขึ้นเช่น ลูสีตาเนีย  ตาร์ราโคเนนสิส และเบลจีคา  ซึ่งยังดำรงอยู่ในทุกวันนี้เป็นรัฐทันสมัย  ซึ่งชาวโรมันพัฒนาขึ้น  

จริงๆแล้วจวบจนกระทั่ง จูเลียส ซีซาร์ (ซึ่งเกิดใน พ.ศ.๔๔๓  ณ จุดเริ่มต้นของยุคสมัยแห่งราศีมีน)  ได้ข้ามรูบิคอน  และผลักดันให้เกิดสงครามกลางเมืองนั้น  ที่โรมเป็นเอกาธิปไตย  และได้มาซึ่งจักรวรรดิโรมันที่เราคุ้นเคยดี  การกระทำอย่างหนึ่งในการกระทำแรกสุดของ จูเลียส ซีซาร์  ในการได้อำนาจสูงสุด คือ การจัดปฏิทินขึ้นใหม่  สูเอโตนีอุส (Suetonius) บอกเราว่า “เขาสร้างความเกี่ยวข้องของปีเข้ากับช่วงเวลาของดวงอาทิตย์  โดยขยายเวลาจาก ๓๕๕ วันเป็น ๓๖๕ วัน  ยกเลิกช่วงเดือนพิเศษสั้นๆที่เพิ่มหลังจากทุกๆเดือนกุมภาพันธ์ที่สอง  แล้วเติมเป็นหนึ่งวันเต็มของทุกๆปีที่สี่”

 

จักรวรรดิโรมันเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยแห่งราศีมีน  ซึ่งมีลักษณะพิเศษของยุคสมัยราศีมีนคือ เยซู คริสต์ ทรงประสูติ  พระองค์ควบคุมทั้งยุคสมัยแห่งราศีมีนและโลกเหมือนโคลอสสุส  อันตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่มหึมา  พระเยซู  ทรงเป็นชาวประมงค์แห่งมนุษย์  สาวกของพระองค์ ๑๒ คนก็เป็นชาวประมงทั้งหมด  และสัญลักษณ์ของพระองค์ก็คือ ปลา

 

ยุคสมัยแห่งราศีมีน  ได้รับการจำแนกให้แตกต่าง  อย่างน้อยที่สุดก็จนกระทั่งถึงศตวรรษสุดท้าย  เพราะการครอบงำของศาสนาและสิ่งต่างๆที่เป็นจิตวิญญาณการแพร่ขยายของศาสนาคริสต์ในซีกโลกตะวันตก  คู่ขนานไปกับการแพร่ขยายของศาสนาอิสลามในตะวันออกกลาง  และศาสนาพุทธในซีกโลกตะวันออก  ในศตวรรษแรกๆของยุคสมัยแห่งราศีมีน  มีการพ่ายแพ้ของชาวโรมันให้แก่ผู้รุกราน  ชาวอนารยชนป่าเถื่อนจากทางเหนือ (จากส่วนที่ขึ้นเป็นหมอกของราศีมีน)  ซึ่งเป็นผลให้ถอยกลับไปสู่ความโง่เขลา  และการเชื่อถือโชคลางเป็นเวลายาวนานของยุคมืด (ราศีมีนเป็นราศีที่ครอบงำด้วยความคิดของตนเอง)  ต่อมาชาวฝรั่งยุโรปเมื่อเริ่มยุคอภินิพัติ (Renaissance : ฟื้นฟูศิลปวิทยา)  ได้นำไปสู่ช่วงระยะเวลาของการขยายอาณาเขตทางทะเล  และการค้นพบโลกใหม่  ซึ่งขยายไปจนจรดจุดสูงสุดตรงศีรษะ  ท้องฟ้าของโลกในศตวรรษที่ ๑๙  เมื่อ อังกฤษ  เยอรมันนี  ฝรั่งเศส  ฮอลลันด์ ฯลฯ  ค้นพบจักรวรรดิโพ้นทะเลอันกว่างใหญ่ไพศาล

 

ในขณะที่เรากำลังอาศัยอยู่ในช่วงปลายของยุคสมัยดังกล่าว  พลังงานของยุคสมัยตกลงเรื่อยๆ และหดหายไปเสมอ  ทำให้เพิ่มความเป็นระเบียบและความสับสน  ยุคสมัยของเรามีประสบการณ์จากสงครามโลกทั้งสองครั้ง  และสงครามย่อยต่างๆ มีไม่กี่ส่วนของโลกที่ไม่ถูกแตะต้องโดยความรุนแรงชนิดใดชนิดหนึ่ง  เพราะฉะนั้น  ไม่น่าประหลาดใจเลยว่า  ผู้คนจำนวนมากกำลังมองไปข้างหน้าด้วยดวงใจที่เต็มไปด้วยความหวังถึงยุคราศีกุมภ์ที่กำลังจะมาถึงซึ่งมีทั้ง  คำสัญญาแห่งสันติภาพ  ความบรรสาน  และความเข้าใจ

 

ยุคสมัยแห่งราศีกุมภ์  จะเริ่มต้นประมาณปี พ.ศ.๒๖๐๑  ราศีกุมภ์ซึ่งเป็นราศีคนถือเหยือกน้ำ  เป็นราศีที่แน่นอน (สถิรราศี)  เป็นธาตุลม  ดาวพระเคราะห์ผู้ควบคุมในสมัยเดิมของราศีกุมภ์คือ เสาร์  ซึ่งโลหะคือ ตะกั่ว  ขณะที่ดาวพระเคราห์ผู้ควบคุมสมัยใหม่ของราศีกุมภ์คือ มฤตยู  ซึ่งโลหะของมฤตยู  คือ ยูเรเนียม  ชาวราศีกุมภ์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคนอิสระที่ดื้อรั้น  มีอุดมคติแบบพระศรีอารย์  หรือยูโทเปีย (Utopia)  รักการเปลี่ยนแปลง  และสนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เป็นพวกนักมนุษยธรรมด้วย  และชอบที่จะเห็นผู้อื่นได้รับการปฏิบัติต่อด้วยความเป็นธรรมและยุติธรรม  ราศีกุมภ์ยังได้รับการเรียกชื่อว่า  ราศีแห่งอัจฉริยะ  จากการศึกษาค้นคว้าแสดงว่า  ส่วนมากของผู้นำด้านปัญญาความฉลาดหลักแหลม  คือ  นักเขียน  นักวิทยาศาสตร์  และนักปรัชญา  นั้นเกิดเมื่ออาทิตย์สถิตในราศีกุมภ์

เพราะว่าอัตลักษณ์ (ลักษณะพิเศษ) ของราศีในจักรราศีแสดงออกในยุคสมัยที่ราศีนั้นๆควบคุมอยู่  จึงแสดงว่า ราศีกุมภ์จะแสดงออกในสิ่งต่อไปนี้

                (หนึ่ง) ขยายงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว  และประยุกต์ใช้ทางเทคโนโลยี  ซึ่งเป็นการพัฒนาที่อยู่ในระหว่างการก้าวหน้า

                (สอง) การพึ่งพิงที่เพิ่มขึ้น  ที่พึ่งพิงต่อพลังงานนิวเคลียร์  ที่ใช้โลหะของราศีกุมภ์ทั้งสองชนิด  คือ ตะกั่ว และยูเรเนียม

                (สาม) อิสระที่มีมากขึ้นสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยภายใต้ระบอบการปกครองแบบเผด็จการ  โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นในสหภาพโซเวียต  ซึ่งปกครองโดยราศีกุมภ์ และ

                (สี่) มีระดับภูมิปัญญาความฉลาดหลักแหลมเพิ่มขึ้นสำหรับเชื้อชาติมนุษย์โดยรวม  ซึ่งมาจากการศึกษาที่ดีขึ้น  และการมีบุคคลที่มีความสามารถมากขึ้นเกิดมาในโลก  การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะมีผลให้ความร่วมมือระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น  และทำให้โลกมีความสงบสุขและมีมนุษยธรรม

 

                อย่างไรก็ตาม  เราไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการสิ้นสุดของความขัดแย้ง  การต่อสู้ และสงคราม  ถึงแม้ว่า  การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นทันที  และโดยไม่ได้คาดคิด  ยุคสมัยแห่งราศีกุมภ์ยังไม่เริ่มต้นขึ้น  แต่เมื่อมันเริ่มต้นจะมีช่วงระยะเวลากว่าสองพันปี  ยุคสมัยแห่งราศีกุมภ์ใช้เวลาเพื่อให้พลังงานของแต่ละยุคสมัยได้แสดงออกมา  ถึงแม้ว่า ๑๕๐ ปีแรกดูเหมือนว่าจะสำคัญเป็นพิเศษ  ยุคสมัยแห่งราศีมีนนำมาซึ่งการเกิดจักรวรรดิโรมัน  และการเกิดของพระผู้เป็นเจ้าผู้กู้โลก  ตามคติศาสนาคริสต์  คือ พระเยซู  ผู้มาโปรดโลกในช่วงแรกๆของยุคสมัยแห่งราศีมีน  ซึ่งแสดงว่า  ยุคสมัยแห่งราศีกุมภ์อาจเริ่มโดยมีความหมายสำคัญมากเท่าๆกัน

                หากเป็นเช่นนั้น  เราอาจอยู่บนขอบของยุคใหม่อย่างแท้จริง  ยุคที่มนุษยชาติจะเปลี่ยนจากการไล่ล่าตามเงินและอำนาจ  มาเป็นเปิดหัวใจให้กับของขวัญล้ำค่ามากขึ้นของจิตใจอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด

 

Visitors: 356,241